เทอร์มาจ (Thermage) หนึ่งในนวัตกรรมยกกระชับผิวที่จะช่วยเรียกคืนผิวกระชับเต่งตึงจากปัญหาผิวหย่อนคล้อยที่เป็นไปตามวัย โดยไม่ต้องศัลยกรรมดึงหน้า พร้อมทั้งช่วยลดเซลลูไลท์ สลายไขมันที่สะสมอยู่บริเวณต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น แก้ม ใต้คาง เหนียง ทำให้ Thermage เป็นที่นิยม และถูกพูดถึงกันอย่างมากในตอนนี้
ในบทความนี้เราจะมาแนะนำให้รู้จักกับ Thermage กันให้มากขึ้นค่ะว่า Thermage คืออะไร ? มีกี่รุ่น ?เหมาะกับใคร ? และมีข้อดี ข้อเสียอะไรบ้างที่ควรรู้ก่อนทำ
Thermage คืออะไร ?
Thermage คือ นวัตกรรมยกกระชับผิวด้วยเทคโนโลยีคลื่นวิทยุความถี่สูงแบบขั้วเดียว (Monopolar RF) เปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนยิงส่งลงไปครอบคลุมทุกชั้นผิว ตั้งแต่ชั้นผิวชั้นบน ชั้นผิวหนังแท้ ไปจนถึงชั้นไขมัน ในลักษณะก้อนความร้อนขนาด 3 – 16 cm2 แบบคอลัมน์
โดยพลังงานความร้อนจะทำให้ผิวเกิดการหดตัว ลดชั้นไขมันที่ใบหน้า กระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน ส่งผลให้ผิวกระชับ แน่นขึ้น ริ้วรอยลดเลือนลงได้หลังทำเพียงครั้งเดียว
เครื่อง Thermage มีกี่รุ่น ?
เครื่อง Thermage มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปัจจุบันมีออกมาแล้วด้วยกันถึง 4 รุ่น ดังนี้
- Thermage TC (2003)
- Thermage NXT (2007)
- Thermage CPT (2009)
- Thermage FLX (2018)
โดยเครื่อง Thermage FLX เป็นรุ่นที่ออกมาล่าสุดในปี 2018 และเป็นรุ่นที่นิยมใช้ในไทยค่ะ ซึ่งจะมีความต่างจากรุ่นก่อน ๆ คือ เป็นรุ่นที่มีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ทำให้มีประสิทธิภาพในการรักษาดียิ่งขึ้น
Thermage FLX สามารถปล่อยพลังงานได้ลึกกว่าเดิม ใช้จำนวน Shot น้อยกว่า แต่ได้ผลลัพธ์ที่ดีมากกว่า และใช้เวลาในการทำน้อยกว่าจากรุ่นก่อน ๆ ถึง 25% รวมถึงมีการพัฒนาระบบการทำงานที่จะช่วยลดความเจ็บ ทำให้ช่วงที่คุณหมอยิงพลังงานลงชั้นผิว จะรู้สึกเจ็บได้น้อยลง
ทำ Thermage ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง ?
- ช่วยแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ
- ช่วยลดเลือนริ้วรอยรอบดวงตาให้จางลง
- ช่วยยกกระชับผิวกรอบหน้า ปรับรูปหน้าเรียวขึ้น
- ช่วยสลายไขมันสะสมใต้คาง แก้ปัญหาเหนียง คางสองชั้น
- ช่วยสลายเซลลูไลท์บริเวณต้นขา ต้นแขน
- ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ให้ผิวมีความเต่งตึง เรียบเนียน รูขุมขนกระชับ
ใครบ้างที่เหมาะกับการทำ Thermage ?
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยในระดับเล็กน้อย – ปานกลาง ผิวขาดความกระชับเต่งตึง
- ผู้ที่มีผิวรอบดวงตาหย่อนคล้อย ริ้วรอยเล็ก ๆ รอบดวงตา หนังตาตก หางคิ้วตก
- มีที่มีปัญหากรอบหน้าไม่ชัดจากปัญหาผิวหย่อนคล้อย
- ผู้ที่มีไขมันส่วนเกินสะสมบริเวณ แก้ม ใต้คาง เหนียง
- ผู้ที่มีเซลลูไลท์ ต้องการกระชับสัดส่วน
การทำ Thermage ไม่เหมาะกับใคร ?
- ผู้ที่อยู่ในระหว่างการตั้งครรภ์
- ผู้ทีมีวัสดุประเภทโลหะอยู่ในร่างกาย
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจที่ต้องใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ
- ผู้ที่มีไขมันสะสมน้อย มีแก้มตอบ
Thermage ทำตำแหน่งไหนได้บ้าง ?
การทำ Thermage สามารถทำได้ทั้งใบหน้าและลำตัวที่ผิวมีความหย่อนคล้อย ย้วย ไม่กระชับ โดยจุดที่ได้รับความนิยมอย่างมากคือ บริเวณใบหน้า เหนียง และลำคอ นอกจากนี้ยังสามารถทำได้ทั้งบริเวณรอบดวงตาที่มีความหย่อนคล้อย มีริ้วรอย รวมถึงยกกระชับผิวช่วงลำตัว เช่น ต้นแขน ต้นขา สะโพก หน้าท้อง
Thermage / Ulthera / Hifu ต่างกันอย่างไร ?
ทั้ง Thermage, Ulthera และ Hifu สามารถช่วยยกกระชับผิวได้หมือนกันค่ะ แต่จะต่างกันที่ Ulthera และ Hifu จะใช้เทคโนโลยีคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ความถี่สูง
Thermage
เป็นการใช้เทคโนโลยีคลื่นวิทยุแบบขั้วเดียว สามารถส่งพลังงานความร้อนได้ถึงชั้นผิวไขมัน เน้นกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน สลายไขมันส่วนเกิน ทำให้ผิวกระชับขึ้น แน่นขึ้น จึงเหมาะกับกับผู้ที่มีไขมันสะสมเยอะ ผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ
Ulthera กับ Hifu
ใช้เทคโนโลยีคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ความถี่สูง สามารถส่งพลังงานความร้อนได้ถึงชั้นผิว SMAS (ชั้นผิวเดียวกับที่ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า) ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยให้กลับมาเต่งตึง ผิวเรียบเนียนขึ้น เหมาะกับคนที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ
Thermage อันตรายไหม ?
Thermage เป็นนวัตกรรมที่ได้รับรองมาตรฐานจาก อย. อเมริกา (US FDA) และในประเทศไทยว่า มีความปลอดภัยสูง นิยมใช้แพร่หลายทั่วโลกค่ะ
ทั้งนี้การทำ Thermage หากเครื่องที่ใช้เป็นของปลอม หรือทำการรักษาโดยแพทย์ที่ขาดประสบการณ์
ก็สามารถทำให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายได้ เช่น ผิวไหม้ หน้าเบี้ยวจากการยิงความร้อนโดนเส้นประสาท
ข้อดี – ข้อเสีย ของการทำ Thermage
ข้อดีของการทำ Thermage
- เป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยสูง ได้รับรองมาตรฐานทั้งจาก อย. อเมริกา และไทย
- ใช้เวลาในการทำไม่นาน
- หลังทำไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น ไม่มีรอยแผล
- เห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ
- เห็นผลได้ยาวนานประมาณ 1 – 2 ปี (ขึ้นอยู่กับอายุ สภาพผิว และการดูแลของแต่ละบุคคล)
ข้อเสียของการทำ Thermage
- มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง
- อาจเกิดผลข้างเคียง เช่น อาการบวมแดง ซึ่งเป็นอาการที่พบได้เป็นปกติ สามารถหายไปได้เองประมาณ 24 ชั่วโมงหลังทำ หรือบางรายอาจเจออาการระบมใต้ผิว สามารถหายไปได้เองเช่นกันประมาณ 3 – 10 วันหลังทำ
- หากแพทย์ที่ทำการรักษาไม่มีประสบการณ์มากพอ ใช้พลังงานสูงเกินไป อาจทำให้ผิวไหม้ได้
ทำ Thermage กี่วันเห็นผล ? อยู่ได้นานไหม ?
หลังทำ Thermage สามารถเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีประมาณ 20% ค่ะว่า ผิวมีความกระชับขึ้น ริ้วรอยลดเลือนลง และจะเห็นผลได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น 2 – 3 เดือนหลังทำ
โดยหลังจากทำ Thermage ผิวจะมีการกกระตุ้นคอลลาเจนอยู่เรื่อย ๆ ถึงประมาณ 6 เดือน และผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานประมาณ 1 – 2 ปี ขึ้นอยู่กับอายุ สภาพผิวและการดูแลตัวเองของแต่ละคน ถ้าต้องการให้ผลลัพธ์อยู่ได้อย่างต่อเนื่อง แนะนำให้กลับมาทำซ้ำได้ปีละ 1 ครั้งค่ะ
Thermage เจ็บไหม ?
การทำ Thermage จะให้ความรู้สึกเจ็บและร้อน ๆ ขณะยิงลงชั้นผิว ซึ่งในบางรายอาจรู้สึกเจ็บไม่มาก หรือบางรายอาจรู้สึกเจ็บได้มาก เนื่องจากระดับความทนต่อความเจ็บของแต่ละคนจะไม่เท่ากัน
ทั้งนี้ถ้าเป็นเครื่อง Thermage FLX รุ่นล่าสุดมีการพัฒนาระบบการทำงานที่สามารถช่วยลดความเจ็บระหว่างทำด้วยหัวยิงที่มี Integated cooling สามารถปล่อยความเย็นออกมาเป็นระยะ ๆ ทำให้รู้สึกเจ็บน้อยลง รวมถึงก่อนการทำหัตถการจะมีการแปะยาชาที่สามารถช่วยลดความเจ็บขณะทำได้มากเลยค่ะ
Thermage ราคาเท่าไร ?
ราคาในการทำ Thermage จะขึ้นอยู่กับจำนวน shot ที่ใช้และบริเวณที่ทำ โดยคุณหมอจะเป็นผู้ประเมินถึงจำนวน shot ที่ควรใช้ตามปัญหาที่ต้องการแก้ไขของแต่ละคน แต่โดยส่วนมากการทำ Thermage จะเริ่มต้นที่ 450 – 900 shot โดยราคาจะเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 30,000 บาท ขึ้นอยู่กับโปรโมชันตามแต่ละคลินิกด้วยค่ะ
ก่อนการทำควรมีการเปรียบเทียบราคา Thermage ของแต่ละคลินิก ถ้าหากมีราคาถูกเกินไปควรตรวจสอบให้ดีก่อนเพราะอาจเจอเครื่องปลอมลอกเลียนแบบได้
สรุป Thermage
Thermage เป็นนวัตกรรมกระชับผิวที่สามารถช่วยแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยไม่กระชับ ลดเลือนริ้วรอย และสลายไขมันสะสมที่มีความปลอดภัยสูง ได้รับรองจาก อย.อเมริกา และ อย.ไทย เห็นผลได้อย่างยาวนานประมาณ 1 – 2 ปี
ทั้งนี้การทำ Thermage ควรเลือกใช้บริการกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้เครื่อง Thermage ของแท้ และทำการรักษาโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อป้องกันไม่ให้ผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์หลังทำ
