เลือกคลินิก ร้อยไหมก้างปลา ที่ไหนดี หน้าเรียวสวย เห็นผลไว ยกกระชับได้อย่างปลอดภัย

ร้อยไหมก้างปลาที่ไหนดี

ร้อยไหมก้างปลา ที่ไหนดี

การร้อยไหมก้างปลา ที่ไหนดี คือคำถามที่หลายคนอาจกำลังค้นหาคำตอบอยู่ โดยเฉพาะในคนที่มีปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อย หน้าดูแก่ก่อนวัย และไม่อยากผ่าตัดดึงหน้า ไม่อยากพักฟื้นหลังทำ บทความนี้จะพาเพื่อน ๆ ไปเจาะลึกถึงข้อควรพิจาณาในการเลือกคลินิกร้อยไหมก้างปลาที่ไหนดีให้ปลอดภัย เห็นผลคุ้มค่ากันค่ะ


เลือกคลินิกร้อยไหมก้างปลา ต้องดูอะไรบ้าง ?

การเลือกร้อยไหมก้างปลาที่ไหนดี คลินิกที่เราพิจารณาเลือกควรมีคุณสมบัติตรงตามรายการเช็คลิสต์ที่วันนี้เรานำมาฝากค่ะ จะมีอะไรบ้างนั้นตามไปดูกันเลย


ร้อยไหมกับแพทย์ที่มีประสบการณ์เท่านั้น

  • ควรเลือกร้อยไหมกับคุณหมอที่มีประสบการณ์อย่างน้อย 5 ปีในด้านการร้อยไหมก้างปลา 
  • ร้อยไหมกับแพทย์ตัวจริง ระวังไปเจอหมอเถื่อน เราสามารถตรวจสอบก่อนได้โดยนำชื่อ – นามสกุลของแพทย์ไปตรวจสอบกับเว็บไซต์แพทยสภา 
  • สังเกตแพทย์ต้องมีป้ายประจำตัว มีเลขที่ใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม
  • เลือกร้อยไหมกับแพทย์ที่ประจำคลินิก (มิใช่แพทย์ Part-time) แพทย์ประจำคลินิกจะช่วยดูแลเคสคนไข้ได้อย่างต่อเนื่องมากกว่า การติดตามตัวเป็นไปได้ง่าย และจะไม่ทำให้คลินิกเสียชื่อเสียง
  • ก่อนตัดสินใจเลือกร้อยไหมที่ไหนดี แนะนำให้เข้าไปปรึกษาแพทย์ รับการตรวจประเมินใบหน้าอย่างละเอียดก่อนได้ค่ะ
ร้อยไหมก้างปลากับแพทย์ที่มีประสบการณ์

เลือกคลินิกร้อยไหมก้างปลาที่ได้มาตรฐาน 

  • ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข 
  • คลินิกมีการแสดงภาพถ่าย ชื่อ เลขที่ใบอนุญาต 11 หลักของผู้ประกอบการ ไว้ในบริเวณที่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน 
  • บรรยากาศโดยรวมของคลินิกสะอาด ถูกหลักอนามัย ไม่คับแคบหรืออับทึบ มีห้องทำหัตถการกว้างขวาง แสงสว่างเหมาะสมเพียงพอ
  • เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์สำหรับใช้ในการร้อยไหม ต้องผ่านการฆ่าเชื้อถูกต้องตามหลักอนามัย มั่นใจได้ในด้านความปลอดภัย
  • มีคุณหมอแบบ FullTime ประจำอยู่ด้วยในคลินิก คอยให้คำแนะนำแก่คนไข้ที่เข้ามาปรึกษา
  • เลือกร้อยไหมกับคลินิกที่ตั้งอยู่ไม่ห่างไกลจากที่พักมากนัก สามารถเดินทางไปได้สะดวก มีที่จอดรถเพียงพอ เช่น คลินิกตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้า ช่วยให้สามารถเดินทางไปติดต่อที่คลินิกได้อย่างสะดวกรวดเร็ว โดยเฉพาะในกรณีที่เกิดปัญหาขึ้นหลังการรักษา
  • ในกรณีที่เกิดเคสฉุกเฉินขึ้นสามารถติดต่อสอบถามกับแพทย์ที่ทำเคสให้กับเราได้โดยตรง ทางคลินิกควรมีช่องทางติดต่อเช่น Facebook, Line@ หรือช่องทางติดต่อสื่อสารอื่น ๆ ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า
เลือกคลินิก ร้อยไหมก้างปลาที่ไหนดี
ร้อยไหมก้างปลาในคลินิกที่ได้มาตรฐานเท่านั้น

ศึกษารีวิว ร้อยไหมก้างปลาเพื่อเพิ่มความมั่นใจ 

  • หาข้อมูลรีวิวร้อยไหมก้างปลาจากผู้ที่เคยใช้บริการจริง เพื่อประกอบการตัดสินใจ เราควรเลือกดูรีวิวทั้งรูปภาพและคลิปวีดีโอเพื่อใช้เปรียบเทียบผลการรักษา ก่อนทำ-หลังทำ 
  • เลือกดูรีวิวที่อยู่ในแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ มีความเป็นกลาง เช่น เว็บไซต์ Pantip, Wongnai หรือใน facebook ที่ทางคลินิกไม่สามารถแก้ไขหรือลบข้อความเองได้ การศึกษารีวิวแบบละเอียดจะช่วยให้เราทราบถึงปริมาณคนไข้ที่มาร้อยไหมกับคุณหมอท่านนั้นว่ามีมากเพียงไร คุณหมอมีประสบการณ์ร้อยไหมหน้าเรียวมานานแค่ไหน ช่วยให้เรารับทราบข้อมูลจากประสบการณ์จริงของคนไข้ค่ะ
  • กรณีรีวิวที่อยู่ในรูปแบบคลิป VDO หากเป็นคลิปที่ไม่มีการแต่งภาพเพิ่ม จะช่วยให้มีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น

รีวิว ร้อยไหมก้างปลา

รีวิว ร้อยไหมก้างปลา 10 เส้น ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ร่องแก้ม
รีวิว ร้อยไหมก้างปลา 10 เส้น และฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ร่องแก้ม 2 CC
รีวิว ร้อยไหมก้างปลา 10 เส้น Hifu ใต้ตา ร่องแก้ม
รีวิว ร้อยไหมก้างปลา 10 เส้น และทำ Hifu ใต้ตา ร่องแก้ม 300 shot
รีวิว ร้อยไหมก้างปลา 10 เส้น ร้อยไหมหน้าเรียว
รีวิว ร้อยไหมก้างปลา 10 เส้น ปรับใบหน้าเรียวสวย
รีวิว ร้อยไหมก้างปลา ก่อน-หลังทำ
รีวิว ร้อยไหมก้างปลา เปรียบเทียบก่อน และหลังทำ 1 อาทิตย์

สาเหตุที่เราควรเลือกร้อยไหมกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านร้อยไหม ?

การปรับรูปหน้า ยกกระชับด้วยการร้อยไหมก้างปลา ผลลัพธ์จะดูเป็นธรรมชาติมากน้อยเพียงไร หรือออกมาดีหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับว่าคุณหมอที่ร้อยไหมมีประสบการณ์ ความชำนาญเพียงพอไหม เพื่อน ๆ ที่สนใจอยากร้อยไหมจึงควรหาข้อมูลให้เข้าใจในเบื้องต้นก่อน ศึกษารีวิวจากคนไข้จริง เปรียบเทียบก่อนทำ-หลังทำ รวมถึงหาข้อมูลว่าหมอท่านนั้นเคยทำเคสร้อยไหมก้างปลามาแล้วมากน้อยขนาดไหน ในกรณีที่เกิดเคสหลุดทางคุณหมอแสดงความรับผิดชอบอย่างไรบ้าง

ร้อยไหมก้างปลากับคุณหมอที่ไหนดี

เมื่อเราเลือกทำกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านร้อยไหม จะสามารถช่วยประเมินใบหน้าของเราได้ว่ามีโครงสร้างเป็นแบบไหน จุดไหนบ้างที่ควรปรับแก้ไข ระดับความหย่อนคล้อยมากน้อยเพียงใด แพทย์ที่มีประสบการณ์จะสามารถแนะนำว่าควรควรปรับแต่งแก้ไขตรงจุดไหนบ้าง สามารถคำนวณปริมาณไหมที่ต้องใช้ เลือกประเภทของไหมได้อย่างเหมาะสมกับคนไข้แต่ละเคสได้ดีที่สุด และแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดค่ะ

ข้อสำคัญคือ การวางแผนการรักษา เนื่องจากคนไข้บางรายมีโครงสร้างผิวที่ขาดอีลาสตินและคอลลาเจน อย่างคนไข้ที่มีอายุเยอะ หากร้อยไหมไปแล้วผิวหน้าอาจจะหลุดออกจากเส้นไหมก่อนที่ไหมจะละลายไปหมด ส่งผลให้การยกพยุงอยู่ได้ไม่นานดังที่คาดหวัง ดังนั้น  แพทย์อาจพิจารณาแนะนำให้ทำหัตถการอย่างอื่นประกอบด้วยเพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น อาทิ การทำ Hifu ยกกระชับ การเติมฟิลเลอร์ หรือ การฉีดโบท็อกลดริ้วรอย


ความแตกต่างของไหมแต่ละชนิด ?

ร้อยไหมแบบไหนดี
ตัวอย่างไหม PCL , PLLA และ PDO

ไหมก้างปลา PLLA (Poly-L-Lactic Acid)

  • สามารถใช้แทนการฉีดฟิลเลอร์หรือโบท็อก เพื่อช่วยลดริ้วรอยบนใบหน้า ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ดีที่สุด แต่ไม่ค่อยได้รับความนิยมเพราะมีความเสี่ยงในการใช้
  • เส้นไหมเปราะ บาง ขาดง่าย ไม่ค่อยยืดหยุ่น แต่สามารถทนต่อแรงดึงได้ดีที่สุด
  • ด้วยอายุของไหมอยู่ได้นาน 1 ปี แต่เมื่อนำมาร้อยจริงกลับพบว่าผลลัพธ์อยู่ได้ไม่ถึงหนึ่งปี เพราะไหมขาดง่ายและเปราะ

ไหมก้างปลา PDO (Polydioxanone)

  • ไหมก้างปลา PDO คือไหมที่ถูกนำมาใช้ในวงการเสริมความงามเป็นชนิดแรก ปัจจุบันนิยมร้อยไหมก้างปลา PDO มากที่สุด
  • คุณสมบัติของไหมก้างปลาชนิดนี้คือ นิ่ม ไม่เปราะ มีความยืดหยุ่นในระดับปานกลาง
  • คนไข้จะไม่รู้สึกถึงความระคายเคืองในระหว่างการร้อยไหมใบหน้า
  • หลังจากร้อยไหมแล้วไหมที่ร้อยจะค่อย ๆ ละลายไปจนหมดประมาณ 6 เดือน แต่ผิวหน้ายกกระชับขึ้นกว่าเมื่อตอนก่อนทำ ผิวดูตึงขึ้นได้นานถึง 1 ปีในคนไข้บางรายเพราะไหมสามารถกระตุ้นให้ชั้นผิวสร้างคอลลาเจนได้ดีขึ้น

ไหมก้างปลา PCL (Polycaprolactone)

  • ลักษณะจะเป็นเส้นไหมสีขาว ขนาด USP2 เป็นไหมเส้นใหญ่ที่สุด
  • จุดเด่นของไหมก้างปลา PCL ได้แก่ ไม่เปราะหรือหักง่าย แข็ง ทนทาน และยืดหยุ่นสูงที่สุด
  • ผลลัพธ์ที่ได้หลังจากร้อยไหมอยู่ได้ค่อนข้างนาน ไหมจะค่อย ๆ ละลายหมดภายใน 12 – 18 เดือน ส่วนคนไข้บางรายที่อายุเยอะหรือมีสภาพผิวขาดคอลลาเจนหรืออิลาสตินมากๆ อาจเห็นผลได้ไม่นานถึง 18 เดือน เพราะผิวจะหลุดออกจากเส้นไหมก่อนที่ไหมจะละลายหมด 

ทุกวันนี้เส้นไหม PCL รุ่นล่าสุดได้มีการนำ PLLA มาผสมในไหมด้วย ช่วยเสริมคุณสมบัติด้านการสร้างคอลลาเจนได้ดียิ่งขึ้น โครงสร้างผิวหนังจึงแข็งแรงขึ้นหลังร้อยไหม อีกทั้งยังสามารถอยู่ได้นานขึ้น ทำให้ไหม PCL+PLLA เป็นไหมที่ดีที่สุดในปัจจุบันนี้


เหตุใดการร้อยไหมก้างปลาจึงได้รับความนิยม

  • การร้อยไหมก้างปลา ช่วยยกกระชับใบหน้าได้ แก้ปัญหาให้กับคนที่มีแก้มหย่อนคล้อย หน้าดูมีอายุ หลังร้อยไหมเสร็จแล้วจะเห็นว่าดูยกกระชับขึ้นได้ทันที โดยแพทย์จะร้อยดึงแก้มด้วยเส้นไหมที่มีลักษณะเป็นเงี่ยง ดึงจากแก้มส่วนล่างขึ้นมาจนถึงไรผม ตรงบริเวณขมับ 
  • เป็นหัตถการที่สะดวก รวดเร็ว ใช้เวลาทำเพียง 30 – 45 นาทีเท่านั้น
  • หลังร้อยไหมก้างปลาไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น
  • ในคนไข้บางเคสอาจเกิดอาการบวมช้ำขึ้นได้ ขึ้นอยู่กับเทคนิคของแพทย์แต่ละท่าน อาการบวมจะค่อย ๆ หายไปได้เองใน 1-2 สัปดาห์
  • สามารถเห็นผลลัพธ์เต็มที่ภายใน 1 เดือน
  • หลังจากร้อยไหมก้างปลาแล้วผลอยู่ได้นานประมาณ 4 – 12 เดือน ขึ้นกับว่าเลือกใช้เส้นไหมชนิดใด รวมถึงการดูแลตนเองหลังร้อยไหม ถ้าคนไข้มีปริมาณอิลาสตินในผิวหนังมากผลลัพธ์จะยิ่งอยู่ได้นานกว่าคนที่มีน้อย 
  • เป็นหัตถการที่มีความปลอดภัย หากเลือกร้อยด้วยไหมแท้ เพราะไหมละลายไปได้เองทั้งหมดตามธรรมชาติ ไม่มีสารตกค้างในร่างกาย
  • หากต้องการคงความอ่อนเยาว์ไว้สามารถกลับไปร้อยไหมเพิ่มเติมได้อีก

เป็นอย่างไรกันบ้างคะเพื่อน ๆ เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับ ร้อยไหมก้างปลาที่ไหนดี ในบทความวันนี้น่าจะช่วยไขข้อข้องใจให้พวกเราสามารถใช้เป็นแนวทางประกอบการตัดสินใจเลือกคลินิกร้อยไหมที่น่าเชื่อถือ ซึ่งควรมั่นใจก่อนว่าเป็นคลินิกร้อยไหมที่ได้มาตรฐาน มีแพทย์ที่มีประสบการณ์ประจำอยู่ที่คลินิก เพื่อความปลอดภัย เห็นผลลัพธ์คุ้มค่า ช่วยยกกระชับใบหน้าให้เข้ารูปดูอ่อนก่อนวัยได้จริงค่ะ

อยากรู้เรื่อง มากกว่านี้ คลิกเลย : https://www.vsquareclinic.com/tips/thread-fishbone-clinic/