ฉีดเมโสหน้าใส (อัพเดท 2020) ช่วยให้หน้าใสได้จริงหรือ? ก่อนทำต้องรู้อะไรบ้าง? อันตรายไหม?

เมโสหน้าใส คืออะไร?

การฉีดเมโสหน้าใส ช่วยให้ใบหน้าใสได้จริงหรือ? เมโสคืออะไร ราคาแพงไหม มีประโยชน์ในด้านใดบ้าง ล้วนแล้วแต่เป็นข้อสงสัยของคนที่มีปัญหาสิวฝ้า ริ้วรอย หน้าหมองคล้ำที่กำลังอยากหาตัวช่วยให้หน้าใส วันนี้เรามาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กันเลยครับ/

 รีวิว Made Collagen และ LLD Fat คุณโบ้ท จาก Youtube Channel: V Square Clinic

ฉีดเมโสหน้าใส เหมาะกับใครบ้าง?

เมโสหน้าใส-ช่วยลดหน้ามัน

ช่วยให้ความชุ่มชื้นและลดความมันของใบหน้าลงได้ โดยการทำเมโสหน้าใสด้วยคอลลาเจน

หากจะถามว่า ฉีดเมโสหน้าใส ดีไหม ย่อมขึ้นกับปัญหาและสภาพผิวหน้าของแต่ละคน ระยะเวลาที่จะเห็นผลก็จะแตกต่างกันไปในแต่ละคนด้วย สำหรับคนที่อยากเห็นผลลัพธ์แบบเร่งด่วน สามารถฉีดเมโสถี่ขึ้นได้คือ 3 วันต่อ 1 ครั้ง

  • เหมาะกับคนที่มีปัญหาสิว หน้ามัน รูขุมขนกว้าง
  • เหมาะกับคนที่ไม่มีเวลาทาครีมบำรุงผิว หรืออยากเห็นผลลัพธ์ที่เร็วทันใจกว่าการทาครีม
  • เหมาะกับคนที่ทำงานหนัก นอนดึก นอนน้อย หรือไม่ค่อยมีเวลาสำหรับสุขภาพตัวเอง

อยากรู้ที่มาของคำว่า เมโสหน้าใส คืออะไร?

คำว่า เมโส (meso) แปลตามตัวได้ว่า ตรงกลาง มีความหมายถึงการฉีดสารบำรุงเข้าสู่ชั้นกลางของผิว เนื่องจากหากเราพึ่งพาการทาครีมบำรุงผิวเพียงอย่างเดียว อาจต้องรอนานเป็นเดือนกว่าจะเห็นผลเพราะมีส่วนผสมบางตัวที่ดูดซึมได้ยากจากการทา ส่วนการฉีดเมโสหน้าใสภายใน 1 สัปดาห์เราก็จะเริ่มเห็นผลลัพธ์ได้แล้วครับ

เมโสหน้าใส

ยกตัวอย่างได้กับผลแอปเปิ้ลดังภาพนี้ หลังจากฉีดเมโสหน้าใสแล้ว คอลลาเจนในชั้นผิวหนังของเราจะเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้หน้าขาวใส ผิวดูเต่งตึงและชุ่มชื้นขึ้นกว่าเก่า 

เมโสหน้าใสทั้ง 3 แบบแตกต่างกันอย่างไร? มียี่ห้ออะไรให้เลือกบ้าง?

การจะเลือกว่า เมโสหน้าใส ตัวไหนดีที่สุด หรือเหมาะสมกับเรามากที่สุดนั้น ควรเข้าไปให้คุณหมอช่วยตรวจประเมินผิวหน้าก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นจึงเลือกสูตรเมโสให้เหมาะสมกับคนไข้แต่ละคนมากที่สุด เพราะลักษณะเฉพาะหรือปัญหาของผิวหน้าแต่ละคนย่อมแตกต่างกันออกไป

  • สูตรที่เน้นเรื่องช่วยลดสิว แก้ปัญหาเรื่องผื่นบนใบหน้า “มาเด้-คอลลาเจน” (Made Collagen) คือยี่ห้อของเมโสที่มีจุดเด่นในด้านนี้ มีคุณสมบัติช่วยในเรื่องต่าง ๆ ได้แก่
    • ขับสารพิษที่สะสมออกไปจากร่างกาย
    • ช่วยลดสิว
    • ลดการอักเสบ
    • คอลลาเจน จะช่วยให้ต่อมไขมันทำงานลดลงอีกด้วย
  • ฉีดหน้าขาวใส ช่วยปรับผิวหน้าให้ขาวขึ้นได้ เพราะประกอบไปด้วยส่วนผสมของวิตามินต่าง ๆ อาทิเช่น
    • วิตามิน ABCE
    • กลูต้าไธโอน (Glutathione)
    • ทรานซามิน (Transamin)
  • สูตรเน้นหน้าใส มีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กลับคืนสู่ผิว กระชับรูขุมขน และช่วยให้ผิวฟูขึ้น จะมีส่วนผสมหลัก ได้แก่
    • คอลลาเจน
    • โคเอนไซม์

ฉีดเมโสหน้าใส มีกี่แบบ? เลือกทำแบบไหนดี?

1)      การฉีดเมโสหน้าใส โดยใช้เทคนิคแบบสะกิด

mesotherapy (เมโสเทอราปี) ในอดีตที่ทำกัน จะเป็นวิธีการฉีดเมโส โดยใช้เข็มฉีดตัวยากระจายเป็นจุดเล็ก ๆ ทั่วทั้งหน้า โดยทำในผิวชั้นตื้น

เมโสหน้าใส-แบบสะกิด

[ ภาพตัวอย่าง เมโสหน้าใสแบบสะกิด ]

แม้ว่าจะมีอยู่บ้างก็คือ ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนไปด้วยในตัวขณะที่ใช้เข็มจิ้มเป็นจุดเล็ก ๆ ทั่วใบหน้า แต่ก็อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงคือ มีรอยแดงช้ำ รวมทั้งอาจเกิดอักเสบติดเชื้อขึ้นได้หากระหว่างทำไม่สะอาดเพียงพอ โดยเฉพาะหากเป็นการซื้อตัวยาเมโสมาฉีดเอง ไม่ได้ทำในคลินิกที่ได้มาตรฐาน

2)      เทคนิคการฉีดเมโสหน้าใสแบบ 16 จุด

การฉีดเมโสหน้าใสแบบ-16-จุด

จำลองการไหลเวียนของระบบน้ำเหลือง ซึ่งถูกนำมาใช้ในเทคนิคการฉีดเมโสหน้าใสแบบ 16 จุด

การฉีดเมโสหน้าใสด้วยวิธีนี้ เปรียบเทียบคล้ายกับการฝังตัวยาไว้ที่ต้นน้ำ จากนั้นจึงปล่อยให้ตัวยาค่อย ๆ ไหลกระจายออกมา ซึ่งเป็นการฉีดตามทิศทางการไหลเวียนของต่อมน้ำเหลือง

  • เทคนิคนี้ตัวยาจะออกฤทธิ์ได้ยาวนานกว่าการฉีดเมโสหน้าใสแบบสะกิด
  • ข้อดีของเทคนิคการฉีดแบบ 16 จุด คือ เจ็บน้อยกว่า รอยช้ำน้อยกว่า เป็นแผลน้อยกว่า 

หลังฉีดเมโสหน้าใส มีข้อห้ามอะไรบ้าง?

1) หลังฉีดเมโสเสร็จทันที ไม่ควรนวดผิวหน้าบริเวณที่ทำ

2) หลีกเลี่ยงการทาครีมบำรุงผิวทุกชนิดบริเวณรอยเข็มที่ฉีดเมโส 1 คืนแรกหลังทำ

3) สามารถประคบเย็นได้ตามคำแนะนำของแพทย์ ในกรณีที่เกิดรอยช้ำ รอยแดง ช้ำ จากรอยเข็มตรงบริเวณที่ฉีดเมโสหน้าใส

เมโสหน้าใส จะเห็นผลภายในกี่วัน?

คนไข้ส่วนใหญ่เมื่อฉีดเมโสหน้าใสไปแล้วมักรอคอยว่าต้องรออีกนานแค่ไหนถึงจะเห็นผล ซึ่งหลังฉีดเมโสหน้าใสเรียบร้อยแล้ว จะสามารถเห็นผลได้ในเวลาไม่นานครับ กล่าวคือ

  • โดยปกติแล้วจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ได้ในประมาณ 3 วันหลังฉีด
  • จะสามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างเต็มที่ ประมาณ 7-14 วัน
  • ผลลัพธ์ที่ได้ สามารถคงอยู่ได้นานประมาณ 1-2 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลผิวของแต่ละคนด้วยครับ

เมโสหน้าใส ต้องทำบ่อยขนาดไหน?

เนื่องจากการทำเมโสหน้าใส จะไม่มีแบบถาวร เพราะตัวยาเมโสนั้นสามารถสลายไปเองได้หมดตามธรรมชาติ โดยไม่มีสารตกค้าง

  • ตามปกติแล้วใน 1 เดือนแรกจะฉีด เมโสหน้าใส สัปดาห์ละครั้ง
  • หลังจากนั้นจะฉีดเมโสทุก ๆ 2 สัปดาห์เพื่อคงสภาพผิวให้ดีอย่างต่อเนื่อง 

การฉีดเมโสหน้าใสให้ปลอดภัยและได้ผลลัพธ์อย่างที่คาดหวังไว้ เราควรเลือกทำกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีใบอนุญาตอย่างถูกต้อง และราคาไม่แพงหรือถูกจนเกินไป และที่สำคัญคือควรตรวจสอบผลิตภัณฑ์เมโสก่อนฉีดทุกครั้งให้มั่นใจก่อนว่าเป็นตัวยาเมโสแท้ครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.vsquareclinic.com/