ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ดีไหม? อันตรายหรือไม่? เมื่อเทียบกับการผ่าตัดเสริมหน้าผาก ควรเลือกทำอย่างไหนดี เพื่อหน้าผากโหนกนูนได้รูป

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก คือ เทรนด์การเสริมความงามพร้อมกับปรับโหงวเฮ้งทั้งในด้านการทำธุรกิจ ค้าขาย ที่เชื่อกันว่าจะช่วยให้มีคนคอยอุปถัมภ์ ให้ความช่วยเหลือ ทำให้รับทรัพย์มากยิ่งขึ้น

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

จำลองลักษณะการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

หากใครที่ต้องการมีหน้าผากได้รูปสวย จะต้องมีขมับที่เต็มเป็นส่วนประกอบด้วยจึงจะสมบูรณ์แบบมากขึ้น เนื่องจากส่วนหน้าผากและขมับนั้นเชื่อมต่อกัน โดยเฉพาะหากเป็นผู้หญิง ในด้านโหงวเฮ้งหญิงที่หน้าผากโหนกนูนได้รูปบ่งบอกถึงการไม่ต้องตรากตรำงานหนัก จะได้สามีฐานะร่ำรวย

ซึ่งบทความนี้ได้รวบรวมข้อมูลสำคัญที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก รวมถึงการฉีดขมับไว้ให้แก่ทุกท่านที่กำลังสนใจหรืออยู่ระหว่างตัดสินใจเลือกวิธีการเสริมหน้าผาก

รีวิวฟิลเลอร์หน้าผาก คุณพีช Eat Laek จาก Youtube Channel: V Square Clinic

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก และขมับ ควรเลือกใช้ยี่ห้อไหนดี?

  • ฟิลเลอร์หน้าผาก ยี่ห้อ Juvederm รุ่น volbella (สนนราคาอยู่ที่ 13,000 บาท ต่อ 1 cc) ถือได้ว่าเป็น filler ที่เหมาะที่สุดที่จะใช้เติมหน้าผาก เนื่องจาก
    • มีเนื้อเนียนละเอียด ฉีดแล้วไม่เป็นก้อน
    • มียาชาผสมอยู่ในเนื้อฟิลเลอร์ด้วย
  • ส่วนฟิลเลอร์ขมับ ด้วยเหตุที่ว่าขมับเป็นบริเวณที่สามารถเลือกใช้ฟิลเลอร์ได้หลายรุ่น เราจึงควรเลือกใช้ฟิลเลอร์รุ่นที่สามารถคงทนอยู่ได้นานที่สุด อีกทั้งเพื่อไม่ให้เห็นเป็นก้อนควรฉีดด้วยเทคนิค “เข็มแหลมชนกระดูก” แพทย์มักจะฉีดให้ข้างละ 1-2cc สำหรับคนไข้ส่วนใหญ่ แต่ต้องพิจารณาด้วยว่าคนไข้แต่ละท่านมีลักษณะขมับตอบลึกมากน้อยเพียงไร
    • ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm รุ่น ultraplus (สามารถคงทนอยู่ได้ประมาณ 1 ปี) คือรุ่นที่แพทย์มักแนะนำให้ใช้เติมขมับ
    • หรือ อาจเลือกใช้ยี่ห้อ Juvederm รุ่น voluma (สามารถคงอยู่ได้นานประมาณ 1 ปีครึ่ง)
    • แต่หากคนไข้ท่านใดที่มีผิวบางมาก แพทย์มักแนะนำให้เลือกใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane รุ่น volyme (สามารถคงทนอยู่ได้นานมากถึง 1 ปีครึ่ง)
    • ส่วนการฉีดฟิลเลอร์ในบริเวณขมับชั้นลึก  ควรเลือกใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm รุ่น ultraplus xc ซึ่งมีคุณสมบัติทนต่อแรงขยับได้ดีเยอะ, มีเนื้อฟู อีกทั้งยังมียาชาผสมในเนื้อฟิลเลอร์อีกด้วย 

เหตุใด หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก แล้วเป็นก้อน หรือไหลย้อย เป็นคลื่น มีต้นเหตุเกิดจากอะไรบ้าง?

หากต้องการให้ผลลัพธ์จากการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากออกมาสวยงาม ไม่เกิดผลข้างเคียง จำเป็นต้องฉีดอย่างถูกวิธี ใช้เทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง เพื่อให้คงตัว (เป็นการเสริมกระดูกขึ้นมา) มีความเป็นธรรมชาติ คลำไม่เจอฟิลเลอร์ซึ่งเป็นเนื้อนิ่ม ๆ เมื่อแตะบริเวณหน้าผากจะไม่รู้สึกยวบยาบ

ชั้นผิวหน้าบริเวณแถวหน้าผาก

อธิบายเกี่ยวกับชั้นผิวหน้าบริเวณหน้าผากของมนุษย์ (ภาพตัวอย่าง) 

เนื่องจากฉีด filler ลงในชั้นใต้เยื่อหุ้มกระดูก หน้าผากจึงดูเนียนเรียบ ไม่เป็นคลื่น หากลองคลำดูจะเป็นแผ่นเยื่อหุ้มกระดูกที่มีความแข็ง ซึ่งได้รับการดันให้ยกขึ้นจากฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไป

ด้วยเหตุที่การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากจะต้องใช้ปริมาณฟิลเลอร์หลาย cc จึงจะเห็นความเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน คือ ประมาณ 3-5 cc เป็นต้นไป ค่าใช้จ่ายในการฉีดฟิลเลอร์แท้บริเวณหน้าผากจึงค่อนข้างสูง ส่งผลให้คลินิกหลาย ๆ แห่งแอบนำฟิลเลอร์ปลอมมาฉีดให้กับคนไข้ ทำให้เกิดไหลย้อยได้หลังจากเวลาผ่านไปนานหลายปี เพราะฟิลเลอร์ปลอมไม่สามารถสลายไปเองตามธรรมชาติได้เหมือนกับฟิลเลอร์แท้

ส่วนบางชนิดของฟิลเลอร์ปลอมก็สลายตัวไวจนทำให้เกิดเป็นคลื่นหรือเป็นพังผืด ด้วยเหตุนี้การศึกษาวิธีดูฟิลเลอร์แท้จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่คนไข้ต้องเตรียมตัวมาให้ดีก่อนเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ เพื่อจะได้สามารถตรวจสอบเบื้องต้นก่อนฉีดทุกครั้ง

เลือกทำแบบไหนดี ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก หรือ การผ่าตัดเสริมหน้าผาก?

มีคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่อยากเสริมหน้าผากด้วยวิธีการผ่าตัดเสริมซิลิโคน แม้ว่าจะเป็นวิธีที่ผลการทำจะอยู่ได้อย่างถาวรก็ตาม แต่หลังจากผ่าตัดเสร็จแล้วจะต้องพักฟื้นนานเป็นเดือน จากอาการบวมช้ำค่อนข้างเยอะ และต้องคอยดูแลแผลผ่าตัดขนาดค่อนข้างยาวบริเวณไรผม อีกทั้งยังเป็นวิธีการที่ไม่ยืดหยุ่น หากคนไข้อยากจะปรับเปลี่ยนขนาดของหน้าผากให้เพิ่มขึ้นหรือลดลงก็จำเป็นต้องปรับแต่งด้วยวิธีการผ่าตัดแก้ไขอีกครั้งหนึ่ง

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก-ตัวอย่างทรงหน้าผาก

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ภาพตัวอย่างทรงหน้าผาก

แต่ถ้าเลือกเสริมหน้าผากด้วยวิธีฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ถ้าฉีดเสร็จแล้วรู้สึกไม่ถูกใจก็สามารถแจ้งให้แพทย์ช่วยฉีดเพื่อสลายออกได้ ปรับแต่งเพิ่มลดความโหนกนูนได้ตามความชอบ สามารถฉีดเติมได้อีกเรื่อย ๆ อาจจะค่อย ๆ ทยอยฉีดเพิ่มเติม โดยเริ่มจากการฉีดเพียง 1-2 cc ก่อนในครั้งแรก ซึ่งการฉีด filler มีความยืดหยุ่นมากกว่าการผ่าตัด และอยู่ได้นานถึง 1-2 ปีถ้าฉีดด้วยฟิลเลอร์แท้

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก / ฉีดฟิลเลอร์ขมับ มีอันตรายหรือไม่?

เพื่อความปลอดภัยในการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ขมับ เราควรเลือกฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและมีเทคนิคการฉีดที่ถูกต้องแม่นยำเท่านั้น เนื่องจากสาเหตุดังต่อไปนี้

เส้นเลือดบริเวณหน้าผากมีเส้นที่เชื่อมเข้าสู่ดวงตา

  • ทั้งหน้าผากและบริเวณขมับ ล้วนเป็นจุดที่ต้องใช้ความระวังเป็นอย่างมากเพราะมีเส้นเลือดที่เชื่อมไปยังลูกตาได้โดยตรง อีกทั้งยังต้องใช้ฟิลเลอร์ในปริมาณค่อนข้างมากในการฉีดแต่ละจุด
  • แพทย์ที่มีประสบการณ์จะมีเทคนิคการแก้ไขที่สามารถช่วยแก้ปัญหาได้ หากเกิดกรณีเส้นเลือดอุดตัน โดยจะฉีดสลาย filler รวมทั้งแก้ไขให้กลับคืนมาได้ภายใน 1-2 สัปดาห์ ป้องกันการเกิดตาบอดหรือเนื้อตาย 

รีวิว การเติมฟิลเลอร์หน้าผาก ช่วยเสริมโหงวเฮ้งได้อย่างไรบ้าง? 

รีวิวฉีดฟิลเลอร์ขมับ-1-cc-ลดโหนกแก้ม-เสริมโหงวเฮง

ตัวอย่างรีวิว ฉีดฟิลเลอร์ขมับ 1 cc ลดโหนกแก้ม เสริมโหงวเฮง

รีวิวฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก-แก้แอ่งยุบกลางหน้าผาก

รีวิว การแก้ไขแอ่งที่ยุบตรงกลางหน้าผาก แก้ไขโหงวเฮ้งหน้าผาก ด้วยวิธีเติมฟิลเลอร์หน้าผาก

ปริมาณที่เหมาะสมสำหรับการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก หรือ ฟิลเลอร์ขมับ ควรใช้กี่ cc?

รีวิวฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก-5cc

(รีวิวฟิลเลอร์หน้าผาก 5cc)

  • ในกรณีผู้ที่อยากจะเสริมให้หน้าผากดูโหนกนูนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แพทย์แนะนำว่าควรจะค่อย ๆ ทยอยฉีดครั้งละ 3-5 cc โดยปริมาณฟิลเลอร์ทั้งหมดที่ใช้ในกรณีนี้จะอยู่ที่ 3-10cc โดยประมาณ จากนั้นจึงค่อย ๆ ทยอยฉีดเติมไปจนหน้าผากได้รูปและโหนกนูนสวยสมใจ
  • การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก 1-2 cc ถือว่าเพียงพอในเคสทั่วไป การเติม filler ในปริมาณนี้ก็สามารถช่วยให้หน้าผากดูเรียบ ร่องบริเวณหน้าผากดูตื้นขึ้นมาได้ และได้รูปสวยงามดูเป็นธรรมชาติ ช่วยแก้ปัญหาการยุบตัวของหน้าผากบริเวณเหนือคิ้วที่มักเกิดกับคนที่มีอายุเยอะและเกิดร่องบริเวณหน้าผาก ซึ่งยิ่งทำให้หน้าดูมีอายุ

รีวิวฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก-แก้ร่องเหนือคิ้ว-1cc

รีวิว การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ปริมาณ 1 cc สามารถแก้ปัญหาร่องบริเวณเหนือคิ้วได้

การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก คือเคล็ดลับอย่างหนึ่งที่จะช่วยให้หน้าดูหวานขึ้น ดูเป็นผู้หญิงมากขึ้น ส่วนการเติมฟิลเลอร์ขมับจะช่วยลดความเด่นของโหนกแก้มลง ช่วยปรับรูปหน้าโดยรวมให้ได้สัดส่วนสวยงามมากยิ่งขึ้น ถือเป็นหัตถการที่เหมาะอย่างยิ่งในยุคปัจจุบัน เพราะสะดวก รวดเร็ว สวยได้โดยไม่ต้องผ่าตัดครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.vsquareclinic.com/