ฉีดฟิลเลอร์คาง แก้คางสั้น หน้ากลม ให้เรียวสวยขึ้นได้อย่างไร ?

คางสั้น

หน้ากลม คางสั้น ปรับรูปหน้าให้เรียวสวยด้วยฟิลเลอร์

ปัญหาคางสั้น คางตัด หน้ากลม เป็นเรื่องที่ทำให้หลายคนหนักใจ ไปจนถึงเสียความมั่นใจ เพราะใบหน้าไม่ได้รูป ถ่ายรูปออกมาไม่สวย และนิยมมาเติมคางให้เรียวยาวขึ้นด้วยการฉีดฟิลเลอร์คางปรับรูปหน้าให้ดูยาวขึ้น filler คางมีคนในยุคนี้นิยมทำกันเป็นอย่างมากเพราะหากเลือกใช้ฟิลเลอร์แท้ จะมีความปลอดภัยสูง ไม่ต้องผ่าตัดเสริมคาง ไม่ต้องลางานเพื่อพักฟื้นหลังทำ

ก่อนจะตัดสินใจไปเสริมคางแก้คางสั้นด้วยการฉีดฟิลเลอร์คาง ยังมีหลายเรื่องที่ควรรู้ เช่น ฟิลเลอร์คางปลอดภัยหรือไม่ คุ้มค่าเพียงไร และฉีดฟิลเลอร์คางดีไหม เรามาดูข้อมูลที่รวบรวมจากคำแนะนำของคุณหมอกันเลยค่ะ


ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์คาง เพื่อช่วยแก้คางสั้น ให้หน้าดูเรียวยาวขึ้น

คนที่ต้องการแก้ปัญหาคางสั้น หน้ากลม ปรับใบหน้าให้ดูเรียวยาวมากยิ่งขึ้น นิยมฉีดฟิลเลอร์คาง ให้ใบหน้าดูมีมิติขึ้น นอกจากจะไม่ต้องผ่าตัดศัลยกรรมให้เจ็บตัวเยอะแล้ว ฟิลเลอร์คางยังมีข้อดีอีกหลายประการ ได้แก่

  • ฟิลเลอร์คางเป็นหัตถการที่สะดวกรวดเร็ว ไม่เสียเวลาพักฟื้นหลังทำ หลังจากฉีดเสริมคางด้วย filler แล้วคางดูเรียวสวยขึ้นโดยไม่ต้องรอนาน 
  • การฉีดฟิลเลอร์คางมีเพียงรอยเข็มเล็ก ๆ แต่ไม่ต้องผ่าตัดให้เจ็บตัวเยอะ
  • เหมาะกับคนที่จำเป็นต้องออกงาน รีบใช้ใบหน้า อยากปรับรูปหน้าให้เรียวสวยแบบทันใจ
  • ปลอดภัย และไม่ต้องกังวลถึงความเสี่ยงเรื่องรอยแผลเป็นเหมือนการผ่าตัดเสริมคาง เพราะฉีดฟิลเลอร์เติมคางบริเวณใต้คางคนไข้จะมีเพียงรอยเข็ม และค่อย ๆ หายไปได้เองภายในระยะเวลา 3-7 วัน
  • ปรับแต่งได้ง่าย หากฉีดคางแล้วคนไข้รู้สึกว่าคางที่ได้ยาวมากเกินไป สามารถแจ้งให้แพทย์ฉีดสลายบางส่วนออกได้ทันทีหลังทำ หรือถ้าคิดว่าคางสั้นไปก็สามารถฉีดเติมเพิ่มได้อีกเช่นกัน
  • การฉีดฟิลเลอร์คาง 1 ครั้ง สามารถคงผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 1-2 ปี 
  • หากเลือกใช้ฟิลเลอร์แท้ จะสามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติได้ทั้งหมด ไม่ต้องกังวลว่าจะมีสารตกค้างในร่างกาย
  • ฟิลเลอร์คางราคาไม่สูง และเห็นผลคุ้มค่า คุ้มราคา

ข้อจำกัดของการฉีดฟิลเลอร์คาง คืออะไร ?

ข้อจำกัดของฟิลเลอร์คาง คือ หากเป็นคนที่คางสั้นมาก ๆ จะไม่สามารถแก้ปัญหาคางสั้นด้วยฟิลเลอร์ได้ เนื่องจาก filler คางจะฉีดสาร HA ซึ่งเป็นเนื้อเจลเข้าไปในชั้นใต้เยื่อหุ้มกระดูก จึงไม่สามารถทำให้คางยาวขึ้นมากเกินไปกว่า 1 ซ.ม.ได้ 

สำหรับเคสที่ฉีดฟิลเลอร์คางแล้วได้ยาวเกินกว่าเดิมมากกว่า 1 ซ.ม. นั่นหมายถึงบางส่วนของฟิลเลอร์ไปซ้อนทับอยู่ในเนื้อคางชั้นตื้น 

ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์คาง เราควรหาข้อมูลและดูรีวิวจากคนไข้จริงที่เคยฉีดเติมคางมาก่อน เพื่อเลือกฉีดกับคุณหมอที่มีประสบการณ์ ประเมินรูปหน้าและช่วยแก้ปัญหาคางถอย คางสั้น ได้อย่างตรงจุดและเห็นผล เพื่อให้รูปคางเรียวยาวรับกับใบหน้ามากที่สุด ดูเป็นธรรมชาติ

คุณหมอที่มีประสบการณ์จะฉีดฟิลเลอร์คางโดยใช้เทคนิคการเสริมกระดูก ฉีดแล้วผลลัพธ์จะคงอยู่ได้ยาวนานยิ่งขึ้น และเราสามารถกลับไปฉีดเติมคางใหม่ได้เรื่อย ๆ อย่างปลอดภัย ไม่มีผลทำให้เนื้อคางเกิดการผิดรูป หลังจากฟิลเลอร์เดิมสลายไปเองตามธรรมชาติแล้ว 


แก้ปัญหาคางสั้น หน้ากลม ด้วยการฉีดฟิลเลอร์คางต้องทำอย่างไรบ้าง ?

ก่อนฉีดฟิลเลอร์คางเราควรศึกษาข้อมูลวิธีสังเกตฟิลเลอร์แท้ยี่ห้อต่าง ๆ เพื่อสามารถตรวจสอบในเบื้องต้นได้ด้วยตัวเองว่าฟิลเลอร์ที่ใช้เป็นตัวยาของแท้ และเลือกฉีดกับคุณหมอที่มีประสบการณ์ด้านการปรับรูปหน้า มีเทคนิคการฉีดที่แม่นยำ ฉีดออกมาแล้วเป็นธรรมชาติ ประเมินปัญหาใบหน้า คำนวณปริมาณฟิลเลอร์ที่ควรใช้ได้อย่างเหมาะสม 


ฉีดฟิลเลอร์คาง ต้องใช้ฟิลเลอร์ปริมาณกี่ CC ?

ปริมาณ filler ที่ใช้ในการฉีดฟิลเลอร์เสริมคาง คือประมาณ 1 cc คุณหมอที่มีประสบการณ์จะให้คำตอบได้ดีที่สุดว่าปัญหาคางสั้น คางถอยของแต่ละคนควรใช้ฟิลเลอร์มากน้อยแค่ไหนถึงจะเหมาะสมที่สุด

ฟิลเลอร์ที่ควรเลือกใช้ในการฉีดคางควรมีคุณสมบัติคือ มีความคงตัวสูงจึงจะช่วยให้คางสามารถคงสภาพอยู่ทรงได้นาน


หลังฉีดฟิลเลอร์คาง บวมกี่วัน กว่าจะเข้าที่ต้องรอกี่วัน ?

หลายคนที่อยากฉีดฟิลเลอร์คางเพื่อแก้ปัญหาคางสั้น ปรับรูปหน้าให้ดูเรียวยาวมากขึ้น แต่ยังกลัวอยู่ว่าหลังฉีดแล้วจะบวมหรือเปล่า ? อาการบวมหลังจากฉีดฟิลเลอร์คางสามารถเกิดขึ้นได้ค่ะ เป็นเรื่องปรกติ ส่วนใครที่มีอาการปวดก็สามารถกินยาบรรเทาปวดได้ตามอาการ 

ฉีดฟิลเลอร์คาง กี่วันเข้าที่

หลังจากฉีดฟิลเลอร์คางไปแล้วประมาณ 4-5 วันอาการบวมจะค่อย ๆ หายไปได้เอง สำหรับผลลัพธ์ที่จะเข้าที่และเห็นได้อย่างชัดเจนอาจต้องรอประมาณ 2-3 อาทิตย์หลังทำค่ะ อาการข้างเคียงหลังเติม filler คาง อาทิ จุดหรือผื่นแดงที่เกิดขึ้นบริเวณรอยเข็มที่ฉีดฟิลเลอร์ จะค่อย ๆ หายไปได้เอง


การฉีดฟิลเลอร์ไม่เหมาะกับใครบ้าง ?

  • คนที่แพ้สารไฮยาลูรอนิกแอซิด หรือแพ้ฟิลเลอร์ ไม่ควรฉีดฟิลเลอร์เสริมคาง
  • คุณแม่ที่อยู่ในช่วงให้นมบุตร หรือสตรีมีครรภ์ ยังไม่ควรฉีดฟิลเลอร์
  • คนที่มีอาการของโรคงูสวัด หรือเป็นเริม ไม่ควรฉีดฟิลเลอร์เพราะอาจส่งผลให้อาการของโรคเกิดกำเริบขึ้นมาเยอะขึ้นได้หลังทำ
  • การฉีดฟิลเลอร์คางไม่เหมาะกับผู้ที่มีแผลฟกช้ำง่าย, มีอาการเลือดออกแล้วหยุดยาก รวมถึงผู้ที่กำลังทานยาจำพวกที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด ยกตัวอย่างเช่น ยาแอสไพริน (ASA), ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด (Warfarin), ยาแก้อักเสบปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ (NSAIDS), สารสกัดจากใบแปะก๊วย (Gingko biloba) และวิตามินอี (Vitamin E)

ก่อนฉีดฟิลเลอร์คาง มีวิธีเตรียมตัวให้พร้อมอย่างไรบ้าง ?

  • ก่อนฉีดฟิลเลอร์ 24 ชั่วโมง ควรหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ทุกชนิด  รวมถึงควรงดกิจกรรมต่าง ๆ ที่มีผลให้เลือดสูบฉีด
  • ก่อนฉีดฟิลเลอร์ 1 สัปดาห์เป็นอย่างน้อย สำหรับใครที่กำลังรับประทานวิตามินหรือยาบางชนิด ซึ่งมีผลทำให้เลือดแข็งตัวได้ช้าลง ควรหยุดรับประทานออกไปก่อน อาทิเช่น วิตามินอี, น้ำมันปลา, ใบแปะก๊วย, แอสไพริน, ยากลุ่มต้านการอักเสบ NSAIDs เป็นต้น
  • ก่อนฉีดฟิลเลอร์ 3 วัน แนะนำให้หยุดการทายาจำพวกที่ผลัดเซลล์ผิว อาทิเช่น ครีมในกลุ่ม “Anti-Aging” ทุกชนิด, Tretinoin (Retin-A), Retinols, Retinoids หรือ Glycolic Acid
  • ควรเตรียมข้อมูลเกี่ยวกับโรคประจำตัว และยาที่รับประทานอยู่เป็นประจำ เพื่อแจ้งให้คุณหมอทราบอย่างครบถ้วนก่อนจะฉีดฟิลเลอร์คาง
  • ก่อนฉีดฟิลเลอร์คาง 3 วัน ควรหลีกเลี่ยงการโกนขน, ดึงขน, แว็กซ์ผิว หรือผลัดเซลล์ผิว 
  • ก่อนฉีดฟิลเลอร์คาง 3 วัน สำหรับคนที่มีคอร์สทำหน้า นวดหน้า หรือเลเซอร์ต่าง ๆ ที่ต้องทำเป็นประจำอยู่แล้ว แนะนำให้ทำมาก่อน เนื่องจากหลังเติมฟิลเลอร์คางแล้วจะต้องเว้นการเข้าคอร์สทำหน้าออกไปอีก 2 สัปดาห์

หลังฉีดฟิลเลอร์เสริมคาง ควรดูแลตัวเองอย่างไรบ้าง ?

เมื่อเราเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์คางเพื่อปรับรูปคางให้เรียวขึ้นแล้ว เพื่อให้คางเข้ารูปทรงดีและได้ผลออกมาสวยงามดังที่คาดหวังไว้ ควรปฏิบัติตัวดังคำแนะนำต่อไปนี้

  • อย่างน้อย 48 ชั่วโมงหลังฉีดฟิลเลอร์คาง แนะนำให้อยู่แต่ในที่ ๆ มีอากาศเย็นสบาย อย่าเพิ่งไปตากแดด, ออกกำลังกายแบบหนัก ๆ , ซาวน่า, งดเข้าใกล้ความร้อน รวมถึงกิจกรรมที่ส่งผลให้ใบหน้าแดง
  • อย่างน้อย 1 เดือนหลังฉีดฟิลเลอร์คาง  แนะนำให้งดเว้นการทำเลเซอร์ร้อนที่ลงไปในผิวชั้นลึกทุกประเภท
  • เพื่อช่วยลดอาการบวมที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงช่วยป้องกันการติดเชื้อ ควรรับประทานยาที่คุณหมอจ่ายให้หลังฉีดคางอย่างต่อเนื่อง 
  • เพื่อให้ฟิลเลอร์คางที่ฉีดไปอยู่ได้นานยิ่งขึ้น แนะนำให้ดื่มน้ำมาก ๆ และดื่มอย่างสม่ำเสมอตลอดวัน เนื่องจากการดื่มน้ำคือตัวการสำคัญที่สามารถช่วยให้ฟิลเลอร์ฟูขึ้นและอยู่ได้นาน
วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์คาง

เลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์คาง ที่ไหนดี เพื่อแก้คางสั้นอย่างเห็นผลและปลอดภัย

ใครที่คางสั้น หน้ากลม อยากฉีดฟิลเลอร์คางเพื่อให้ใบหน้าเรียวได้รูปขึ้น ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน รวมถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่สำคัญ ได้แก่

เลือกฉีดฟิลเลอร์คางกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน

  • คลินิกมีการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้อง และต้องมีใบอนุญาตรับรอง
  • ใช้ฟิลเลอร์แท้ 100% เท่านั้น
  • เลือกฉีดกับคลินิกที่อยู่ไม่ไกลจากที่พักมากนัก, สามารถเดินทางได้สะดวก, อยู่ใกล้รถไฟฟ้า, มีที่จอดรถเพียงพอ หรืออยู่ในห้างสรรพสินค้า สถานที่ตั้งดูปลอดภัย

ฉีดฟิลเลอร์คางกับคุณหมอที่มีประสบการณ์

แนะนำให้เลือกฉีดฟิลเลอร์คางกับคุณหมอที่มีประสบการณ์ด้านการปรับรูปหน้าด้วย filler อย่างน้อยประมาณ 5-10 ปี และเป็นคุณหมอที่มีใบประกอบวิชาชีพอย่างถูกต้อง เพื่อความมั่นใจด้านความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่คุ้มค่าค่ะ

ควรฉีดฟิลเลอร์แก้คางสั้น กับแพทย์ที่มีประสบการณ์

ศึกษารีวิวจากคนไข้ที่เคยฉีดคางจริงมาก่อน

รีวิวฉีดฟิลเลอร์คาง 1 cc

เพื่อเพิ่มความมั่นใจด้านความปลอดภัย และด้านผลลัพธ์ที่จะออกมาสวยได้รูป เราควรศึกษารีวิวของคนที่เคยฉีดฟิลเลอร์คางจริงมาก่อน โดยเปรียบเทียบผลลัพธ์หลาย ๆ ราย อ่านรีวิวและคำแนะนำจากในแหล่งข้อมูลที่เป็นกลาง น่าเชื่อถือ เช่นเว็บไซต์ Wongnai และ Pantip 

ฉีดฟิลเลอร์คาง 1 cc รีวิว
รีวิว ฉีดฟิลเลอร์คาง 1 cc เพื่อแก้ปัญหาคางสั้น 

หากมีคลิปวีดีโอรีวิวเปรียบเทียบก่อนและหลังทำจะยิ่งช่วยให้เห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น และข้อดีของ clip VDO รีวิวคือ ตกแต่งภาพได้ยากกว่ารีวิวที่อยู่ในรูปแบบรูปภาพทั่วไปค่ะ

รีวิวฉีดฟิลเลอร์ขมับและเติมคาง 1 cc
รีวิวฉีดฟิลเลอร์ขมับข้างละ 1 cc และเติมคาง 1 cc

หลังฉีดฟิลเลอร์แก้คางสั้น มีข้อควรระวังอะไรบ้าง ?

  • คุณหมอจะเตือนคนไข้ในทุก ๆ เคสว่า หลังฉีดฟิลเลอร์คางไปแล้วห้ามนวด อย่ากด อย่าปั้นทรงคางเองเป็นอันขาด เพราะอาจส่งผลให้คางเกิดเสียทรงได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ฟิลเลอร์ยังไม่เข้าที่ดีนัก คือ ในช่วง 2 อาทิตย์แรกหลังฉีดคาง
  • เพื่อป้องกันฟิลเลอร์เคลื่อนที่ผิดตำแหน่ง ไม่ควรนั่งเท้าคาง และไม่ควรสวมหมวกกันน็อคที่มีสายรัดแน่น
  • เพื่อป้องกันการกดทับตรงที่ฉีดฟิลเลอร์ไป แนะนำว่าควรหลีกเลี่ยงการนอนในท่านอนคว่ำ

สรุป

สุดท้ายนี้ เราจะเห็นได้ว่าการฉีดฟิลเลอร์คางคือทางเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เหมาะสำหรับคนที่อยากแก้ปัญหาหน้ากลม คางสั้น คางตัด ให้ได้รูปเรียวสวยมากขึ้น เสริมบุคลิกเพิ่มความมั่นใจในตัวเองให้คืนกลับมาอีกครั้ง หากฉีดฟิลเลอร์แท้ในคลินิกที่ได้มาตรฐาน เลือกฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ การเสริมคางด้วยการเติมฟิลเลอร์ก็จะปลอดภัยสูง ดูเป็นธรรมชาติ และเห็นผลลัพธ์อย่างคุ้มค่าค่ะ