โบท็อกยี่ห้อไหนดีที่สุด อเมริกา / เกาหลี / อังกฤษ / เยอรมัน ต่างกันอย่างไร?

แฉหมดเปลือก-วิธีเลือกโบท็อก-กลโกงโบท็อก

ฉีดโบท็อก ที่ไหนดี

โบท็อก คือ ชื่อทางการค้าของ โบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum toxin type A) ที่มีการนำมาใช้ในแวดวงความงาม เป็นสารสกัดจากแบคทีเรียที่ชื่อว่า คลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium botulinum) มีผลออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท (neurotoxin) โดยจะไปรบกวนการทำงานของระบบประสาท ทำให้มัดกล้ามเนื้อทำงานได้ลดลงเป็นการชั่วคราว

ในบทความนี้ ขอเรียก Botulinum toxin type A อย่างสั้น ๆ ว่า โบท็อก ซึ่งอาจประกอบด้วยข้อมูลวิชาการบางส่วนที่เข้าใจยากอยู่บ้าง จุดประสงค์ก็เพื่อจะอธิบายว่า โบท็อก แต่ละยี่ห้อนั้นต่างกันอย่างไร ช่วยอะไร ฉีดโบท็อก ยี่ห้อไหนดี เพื่อเป็นข้อมูลให้คนไข้ใช้ประกอบการตัดสินใจในการเลือกยี่ห้อก่อนเข้ารับการฉีดโบท็อก

คุณสมบัติของโบท็อก

โบท็อก จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละยี่ห้อ ซึ่งขึ้นอยู่กับ ชนิดของ protein complex, ขนาดของ molecule complex, กรรมวิธีการทำตัวยาให้บริสุทธิ์ และความคงทนในการเก็บรักษา

ซึ่งขนาดของ molecule complex เป็นคุณสมบัติที่ส่งผลให้โบท็อกแต่ละยี่ห้อ เกิดความแตกต่างกันมากที่สุด

ทั้งนี้หมอจะขออธิบายเกี่ยวกับ คุณสมบัติที่จะทำให้โบท็อกเกิดความแตกต่างกันมากที่สุด โดยจะเรียงลำดับตาม A. B. C. ดังนี้ครับ

A.ขนาด ของ molecule complex (molecule complex size) ของโบท็อก

เซลล์เส้นประสาท

Molecule complex (โมเลกุล คอมเพล็กซ์) ของโบท็อก ประกอบไปด้วย 3 ส่วนหลัก ๆ ดังนี้

1. ส่วนที่ 1 คือ Accessories protein (750kDa) : (หน่วยปกป้อง) ทำหน้าที่นำพาและปกป้องโบท็อกส่วนที่ 2 และ 3 จากจุดที่ฉีด เพื่อให้โบท็อกสามารถแพร่ไปยังปลายเส้นประสาท ได้อย่างปลอดภัย โดยไม่ถูกทำลาย

2. ส่วนที่ 2 คือ Heavy chain (100kDa) : เป็นกุญแจให้โบท็อกส่วนที่ 3 สามารถเข้าสู่เซลล์เส้นประสาทได้

3. ส่วนที่ 3 คือ Light chain (50kDa) : เป็นโบท็อกส่วนที่ระงับการทำงานของกล้ามเนื้อ

โดยความสำคัญของโบท็อก ส่วนที่ 1 คือ

ผลของโมเลกุลต่อการแพร่กระจาย

– ถ้าออกแบบให้โบท็อกกระจายตัวแคบ (Botox Allergan แคบที่สุด > Botulax)

ข้อดี

  • จะทำให้สามารถควบคุมการฉีดให้ออกมาแม่นยำ ตรงจุด เหมาะกับการฉีดโบท็อกที่กล้ามเนื้อโดยตรง
  • จะทำให้ส่วนที่ 3 มีความเข้มข้นสูง จึงอยู่ได้นานขึ้น

ข้อเสีย

  • การจะฉีดโบท็อกชนิดนี้ให้ผลออกมาดูเป็นธรรมชาตินั้น ต้องอาศัยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง มิฉะนั้นจะเกิด คิ้วกระดก ยิ้มแข็ง แก้มตอบ ได้

– ถ้าออกแบบให้โบท็อกกระจายตัวกว้าง (Dysport กว้างที่สุด > Xeomin > Nabota > Botulax) จะช่วยให้ผลการฉีดโบท็อกดูเป็นธรรมชาติ ไม่ตึงเกินไป เหมาะกับเทคนิค dermolift

ข้อดี

  • ออกฤทธิ์ไว จึงเหมาะกับคนที่ต้องการผลโบท็อกหน้ากระชับแบบเร่งด่วน
  • เหมาะกับการฉีดลดต้นแขน ลดน่องในบริเวณกว้าง

ข้อเสีย

  • จะทำให้ โบท็อกส่วนที่ 3 ที่ทำงานระงับกล้ามเนื้อในแต่ละเซลล์ มีความเข้มข้นโบท็อกลดลง ระยะเวลาอยู่ได้สั้นลง
  • ถ้าแพทย์ที่ฉีดไม่ชำนาญพอ จะมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิด ตาตก ปากเบี้ยว ยิ้มไม่สุด
allergan-dysport

ในรูปภาพด้านบนนี้คือ การย้อมสีผิวหนัง เพื่อดูพื้นที่ที่โบท็อกออกฤทธิ์ โดยจะเห็นได้ว่า โบท็อกฝั่งขวาที่เป็นยี่ห้อ Dysport (โบท็อกอังกฤษ) จะมีการกระจายตัวยาที่กว้างกว่า ฝั่งซ้ายที่เป็นยี่ห้อ Allergan (โบท็อกอเมริกา)

B.ความบริสุทธิ์ของตัวยาโบท็อก และ protein complex

โบท็อก คือ โปรตีนชนิดหนึ่ง เมื่อฉีดเข้าไปในร่างกายจะสามารถสลายได้หมด 100% โดยไม่ทำให้เกิดอันตราย แต่ในบางคนร่างกายจะสร้างภูมิต้านทาน (antibody) ขึ้นมา ส่งผลให้เกิดการดื้อโบท็อกขึ้นได้

โดยหากเกิดการดื้อโบท็อกแล้ว จะส่งผลให้โบท็อกที่ฉีดเข้าไปไม่ออกฤทธิ์ เนื่องจาก antibody ของร่างกายจะจับกับโบท็อกแทน

การดื้อโบท็อกสามารถเกิดได้จากทั้ง โปรตีน ส่วนที่ 1,2,3 (ตามข้อ A.)

ส่วนที่ 3 ของโบท็อกทุกยี่ห้อจะคล้ายกัน เนื่องจากเป็น botulinum toxin type A เหมือนกัน แตกต่างกันที่สายพันธุ์เล็กน้อยเท่านั้น

โบท็อกแต่ละยี่ห้อ ในส่วนที่ 1,2 จะมีความแตกต่างกัน ดังต่อไปนี้

ขอบคุณข้อมูล โบท็อกยี่ห้อไหนดีที่สุด อเมริกา/เกาหลี/อังกฤษ/เยอรมัน ต่างกันอย่างไร? จาก Youtube Channel: V Square Clinic

Allergan (โบท็อกอเมริกา)

Allergan เป็นบริษัทต้นฉบับดั้งเดิม (original) ของโบท็อก ซึ่งมีงานวิจัยรับรองยาวนานที่สุด กว่า 3,500 งานวิจัย (since 1989) จึงมีความน่าเชื่อถือได้ว่า protein complex ส่วนที่ 1 และ 2 นี้ผ่านการพัฒนามาเพื่อทำให้โอกาสที่จะดื้อโบท็อกมีน้อยที่สุด และผลการรักษาดีที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับโบท็อกยี่ห้ออื่นๆ

หมอจะสามารถคาดคะเนการออกฤทธิ์ของโบท็อกได้แม่นยำ ทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมาดีที่สุด เพราะโบท็อกอเมริกาจะให้ผลการรักษาที่แม่นยำที่สุด ยากระจายตัวแคบที่สุด

โบท็อกอเมริกา จะเหมาะกับการฉีดโบท็อก lift ด้วยเทคนิค Nefertiti lift

ต้องอาศัยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง ในการฉีดโบท็อกอเมริกาเข้ากล้ามเนื้อ เพื่อให้อยู่ได้นาน และผลออกมาดูเป็นธรรมชาตินั้น ไม่เช่นนั้นอาจจะเกิด คิ้วกระดก ยิ้มแข็ง แก้มตอบ ได้

Allergan อเมริกา

Dysport (โบท็อกอังกฤษ) (since1990)

โบท็อกอังกฤษ จะเน้นการพัฒนาแต่ protein ในส่วนที่ 2 เท่านั้น ซึ่งเชื่อว่า การลด protein ในส่วนที่ 1 จะทำให้โอกาสในการดื้อโบท็อกน้อยลง และช่วยให้โบท็อกในส่วนที่ 3 ออกฤทธิ์ได้เร็วขึ้น

Dysport มีจุดเด่นคือ ไม่กระจุกเป็นจุดแคบๆ ทำให้โบท็อกมีการกระจายตัวได้อย่างทั่วถึง ซึ่งเหมาะกับการฉีดโบท็อกเพื่อยกกระชับหน้าด้วยเทคนิค dermolift สำหรับผู้ที่ต้องการลดริ้วรอยอย่างดูเป็นธรรมชาติจะตึงประมาณ 50%  และเหมาะกับการฉีดลดกลิ่นตัว ลดเหงื่อ ลดต้นแขน ลดน่องได้ด้วย

การฉีดโบท็อกอังกฤษ ต้องอาศัยแพทย์ที่มีความชำนาญ และมีความระมัดระวังในการฉีดสูง เนื่องจากมีการกระจายตัวกว้าง หากแพทย์ไม่มีความชำนาญที่มากพออาจจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงต่าง ๆ อาทิเช่น ตาตก ยิ้มไม่สุด ปากเบี้ยว

Dysport โบท็อกอังกฤษ

Xeomin (โบท็อกเยอรมัน)

โบท็อกเยอรมัน Xeomin เน้นพัฒนาโดยนำข้อดีของ Allergan อเมริกา กับ Dysport อังกฤษมารวมเข้าด้วยกัน โดยคุณสมบัติต่าง ๆ ของโบท็อก จะอยู่ตรงกลางระหว่าง botox อเมริกากับอังกฤษ นั่นคือมีความบริสุทธิ์สูง และตัวยาจะไม่กระจุกตัวแคบเกินไป ทำให้ไม่ตึงเกินไป ได้ผลที่ออกมาดูเป็นธรรมชาติ ทั้งนี้ยังมีงานวิจัยที่แสดงว่า Xeomin ได้ผลดีในรายที่เคยดื้อยา โดยที่เคสนั้นต้องหยุดฉีดโบท็อกมาแล้วอย่างน้อยเป็นระยะเวลา 2-3 ปี

Xeomin โบท็อกเยอรมัน

Nabota (โบท็อกเกาหลี)

Nabota คือ โบท็อกเกาหลียี่ห้อเดียวที่ผ่านงานวิจัยรับรองจาก อย.อเมริกา U.S.FDA approved (2018) โดยเน้นการพัฒนาให้ออกฤทธิ์ไว

Nabota โบท็อกเกาหลี

Botulax (โบท็อกเกาหลี)

Botulax คือ โบท็อกเกาหลี ที่พยายามพัฒนาให้เหมือนยี่ห้อ Allergan ซึ่งเป็นโบท็อกอเมริกา จากประสบการณ์การรักษาที่ผ่านมา พบว่า Botulax จะออกฤทธิ์ไวกว่าเล็กน้อย ระยะเวลาอยู่ได้สั้นกว่าเล็กน้อย แต่ราคาถูกกว่า Allergan โบท็อกอเมริกาเป็นเท่าตัว

Botulax โบท็อกเกาหลี

การฉีดโบท็อก บางคลินิกอาจจะอ้างว่าต้องผสมยาในห้องปลอดเชื้อ หรือไม่สามารถเปิดเผยสูตรยาได้ อันนี้ไม่เป็นความจริง ต้องระวังนะครับ

เพื่อความมั่นใจว่าเป็นโบท็อกแท้ ไม่ว่ายี่ห้อใดก็ตาม แพทย์ควรแกะกล่อง เปิดขวดใหม่ ดูดยา ให้คนไข้ดูต่อหน้าจนหมด และให้คนไข้สามารถนำกล่องและขวดกลับบ้านได้ครับ

เทคนิคการฉีดโบท็อก Dermolift vs Nefertiti lift แตกต่างกันอย่างไร ?

dermo-lift-nefertiti

2 เทคนิคนี้ เป็นหลักการการฉีดโบท็อกที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

Dermolift คือการฉีดโบท็อกลงในชั้นผิวหนัง ซึ่งจะทำให้เกิดฤทธิ์ของ dermotoxin ส่งผลให้ผิวหนังหดตัว โดยจะฉีดในแนวจุดสีดำตามรูป เพื่อดึงหน้าขึ้น

โบท็อกที่เหมาะกับเทคนิคนี้คือ Dysport/Nabota

Dermolift ควรทำเฉพาะเวลาที่ต้องการผลเร่งด่วน เพราะผลจาก dermolift จะอยู่ได้เพียง 1-2 เดือน ไม่ควรทำบ่อยๆ อาจจะเพิ่มโอกาสในการดื้อโบท็อก

Nefertiti lift จะแบ่งกล้ามเนื้อใบหน้าออกเป็นสองส่วน คือ ส่วนที่ดึงขึ้นกับส่วนที่ดึงลง ปกติ 2 ส่วนนี้จะต้านกันไว้เสมือนชักเย่อ เราฉีดโบท็อกไปในส่วนที่ดึงลง (ตามจุดสีขาวในรูปภาพ) จะทำให้ส่วนที่ดึงขึ้น มีแรงมากกว่า จึงส่งผลให้ใบหน้ายกกระชับขึ้น

ผลจากการฉีดโบท็อก nefertiti lift จะอยู่ได้ประมาณ 3-4 เดือน

โดยปกติที่ V Square Clinic จะเน้นทำ Nefertiti lift ให้กับคนไข้มากกว่าการทำ Dermolift เพราะ Nefertiti lift อยู่นานกว่า และใช้ยูนิตโบท็อกน้อยกว่า Dermolift

ทั้งนี้ ในกรณีที่คนไข้ต้องการผลที่เร่งด่วน สามารถทำ Dermolift คู่กับ Nefertiti lift ได้ในครั้งเดียวกัน

ข้อควรระวังของ โบท็อก แต่ละยี่ห้อ

Allergan (โบท็อกอเมริกา)

ในกรณีที่ต้องการฉีดโบท็อกไม่ถึง 50ยู/100ยู ควรชวนเพื่อนมาแชร์ยูนิตให้ครบ 50ยู/100ยู เพื่อหมอจะได้เปิดขวดใหม่ ผสมให้ดูต่อหน้า หลังฉีดควรจะเก็บขวดและกล่องกลับบ้าน หรือถ่ายรูปเก็บไว้ เพื่อไว้ตรวจสอบ จะได้มั่นใจว่าได้โบท็อกของแท้ตามราคาจริงที่จ่ายไป

เนื่องจากมีหลายคลินิกที่นำโบท็อกเกาหลีธรรมดาใส่ขวด Allergan มาฉีดให้ก็ได้ผลใกล้เคียงกัน ตึงเหมือนกัน คนไข้ก็แยกไม่ออก แต่ต่างกันที่ระยะเวลาของผลการฉีดและโอกาสในการดื้อยา ทั้งนี้การดื้อยาเป็นสิ่งที่ต้องระมัดระวังและให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก

Dysport (โบท็อกอังกฤษ)

การนับ unit ของโบท็อกอังกฤษ จะต่างจาก โบท็อกยี่ห้ออื่น ซึ่งเป็นจุดที่ต้องระมัดระวัง กล่าวคือ

โบท็อกอังกฤษ 250 unit จะเทียบเท่ากับโบท็อกยี่ห้ออื่นๆ 100 unit 

แต่มีบางคลินิกนำไปโฆษณาว่า โบท็อกอังกฤษ 100ยู ราคาถูกๆ  ซึ่งในความเป็นจริงแล้วคือเทียบเท่าแค่ 40ยู เท่านั้น

Botulax (โบท็อกเกาหลี)

เจอยาปลอม ยาหิ้วเยอะมากครับ  โดยมีบางคลินิกนำยาปลอมมาใส่ในขวดโบท็อกเกาหลีแท้ แล้วเอามาฉีดให้คนไข้

หลังจากฉีดไปแล้วไม่ได้ผล ทางคลินิกกลับอ้างว่าเป็นเพราะคนไข้เลือกใช้โบท็อกเกาหลี แล้วจึงแนะนำให้ใช้โบท็อกอเมริกา

จากนั้น เมื่อคนไข้จ่ายเงินเพิ่ม แต่กลับเอาโบท็อกเกาหลีแท้ใส่ขวดโบท็อกอเมริกา มาฉีดให้แก่คนไข้ โดยคนไข้ไม่รู้ความจริงใด ๆ

Nabota (โบท็อกเกาหลี)

ในบางคลินิกมีการอ้างว่า โบท็อกเกาหลี Nabota เห็นผลหลังฉีดทันที ซึ่งไม่เป็นความจริงนะครับ ที่ฉีดแล้วรู้สึกว่าหน้าตึงทันทีนั้น เป็นอาการบวมเข็ม ซึ่งไม่ว่าจะฉีดด้วยโบท็อกยี่ห้อใดก็ตาม ก็อาจจะเกิดผลหลังฉีดทันทีเช่นนี้ได้เหมือนกัน

ผู้ที่กำลังตัดสินใจว่าจะ ฉีดโบท็อกยี่ห้อไหนดี นอกจากการพิจารณาเลือกจากยี่ห้อโบท็อกซ์แล้ว ควรเลือกแพทย์ที่มีความชำนาญ คลินิกที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้ไม่มีผลข้างเคียง และผลลัพธ์ที่ออกมาดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด

https://www.vsquareclinic.com/tips/what-is-botox/

ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.vsquareclinic.com/
ข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.vsquareclinic.com/blogs/truth-about-botox/