ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คืออะไร? ช่วยให้ใต้ตาดูดีขึ้นอย่างไรบ้าง อันตรายไหม พร้อมรีวิว ยี่ห้อไหนดีสุด?

ฟิลเลอร์ใต้ตา คืออะไร? ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?

เมื่อคนเราอายุเกิน 25 ปีไปแล้ว หลายคนมักเริ่มหันมาสนใจเรื่องการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพราะด้วยวัยที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้โครงสร้างของใบหน้า รวมทั้งผิวหนังใต้ตาเกิดความเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะในคนที่อายุมากกระดูกจะยุบลง เนื้อจะน้อยลง ส่งผลให้ใบหน้าดูโทรม หย่อนคล้อย ไม่สดใส บริเวณใต้ตามักจะเกิดเป็นริ้วรอยร่องลึก

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือ การเติมสาร Hyaluronic Acid (ไฮยาลูรอนิค แอซิด) เข้าไปในบริเวณใต้ตาที่พบปัญหาหย่อนคล้อยและริ้วรอย แพทย์มักแนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นจุดแรก หลังจากเติมแล้วใบหน้าจะดูอ่อนเยาว์ลงอย่างเป็นธรรมชาติ

ขอบคุณ รีวิวฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยให้ร่องใต้ตาตื้นขึ้น ดูสดชื่น ตาไม่ดำ ไม่โหลไม่ดูโรยรา ช่วยหน้าดูเด็กลง จาก Youtube channel: V Square Clinic

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหน? รุ่นใดเหมาะที่สุด

สำหรับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแบรนด์ที่แนะนำ ได้แก่ ยี่ห้อ Restylane และ Juvederm โดยก่อนหน้านี้ที่ V Square Clinic จะเลือกฉีดใต้ตาโดยใช้ฟิลเลอร์ Restylane มาโดยตลอด ต่อมาในช่วงหลัง ๆ ยี่ห้อ Juvederm ได้พัฒนารุ่นที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกันออกมา แต่แตกต่างกันที่อายุการใช้งานครับ ทั้งนี้ผิวหนังใต้ตาจะค่อนข้างบางการเลือกใช้ฟิลเลอร์จึงต้องพิถีพิถันเป็นพิเศษ

  • Restylane รุ่น Perlane จุดเด่นของยี่ห้อ Restylane คือฉีดแล้วคงรูปไม่ฟูเยอะ ผลที่ได้ออกมาเป็นธรรมชาติ ไม่ทำให้ตาดูบวม
  • Juvederm รุ่น Voluma ได้พัฒนาเป็นรุ่นที่ฉีดแล้วไม่ค่อยฟูเยอะ ลักษณะโมเลกุลจะใกล้เคียงกับ Restylane
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา-ยี่ห้อไหนดีที่สุด

ฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาโปรโมชั่นสุดพิเศษ

โปรโมชั่น ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แต่ละยี่ห้อ ลด 50% ที่ V Square Clinic เท่านั้น!

  • ฟิลเลอร์ใต้ตา Restylane รุ่น Vital Light ปริมาณ 1 CC = 13,000 (จากราคาปกติ 26,000)

(นำเข้าจากสวีเดน SE อยู่ได้นาน 6 เดือน)

  • ฟิลเลอร์ใต้ตา Juvederm รุ่น Volite ปริมาณ 1 CC = 13,000 (จากราคาปกติ 26,000)

(นำเข้าจากอเมริกา us อยู่ได้นาน 6 เดือน)

  • ฟิลเลอร์ใต้ตา Juvederm รุ่น Voluma ปริมาณ 1 CC = 13,000 (จากราคาปกติ 26,000)

(นำเข้าจากอเมริกา us อยู่ได้นาน 18 เดือน)

  • ฟิลเลอร์ใต้ตา Restylane รุ่น Defyne ปริมาณ 1 CC = 13,000 (จากราคาปกติ 26,000)

(นำเข้าจากสวีเดน SE อยู่ได้นาน 18 เดือน)

  • ฟิลเลอร์ใต้ตา Restylane รุ่น Perlane Lyft ปริมาณ 1 CC = 11,000 (จากราคาปกติ 22,000)

(นำเข้าจากสวีเดน  SE อยู่ได้นาน 1 ปี)

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ใช้กี่ cc เพื่อผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ?

คำถามจากคนไข้ที่พบบ่อย ฟิลเลอร์ใต้ตา ใช้กี่ CC ถึงจะออกมาสวย ดูเป็นธรรมชาติ ซึ่งไม่มีสูตรตายตัวเนื่องจากต้องขึ้นอยู่กับปัญหาว่าหนัก-เบาแค่ไหน และสภาพผิวของคนไข้แต่ละเคส แต่นิยมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาประมาณ 1-2 cc กันเป็นส่วนใหญ่ครับ และถ้าคนไข้มีอายุเยอะและมีใต้ตาลึกมากจากกระดูกใต้ตาที่ยุบตัวลงก็อาจต้องใช้ปริมาณฟิลเลอร์ที่มากกว่ากรณีทั่วไป ทางที่ดีคือควรเข้าไปปรึกษาแพทย์เพื่อให้แพทย์ประเมินปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสมครับ

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อันตรายไหม ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจฉีด?

ฟิลเลอร์ใต้ตา-ยี่ห้อไหนดี

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อันตรายไหม? จะไม่เป็นอันตรายครับหากคนไข้เลือกฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ซึ่งจะมีคุณสมบัติเด่นในแง่ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ และมั่นใจได้ถึงความปลอดภัย คือ

  • คลินิกที่ได้มาตรฐานจะเลือกใช้ฟิลเลอร์แท้ในการฉีดเท่านั้น ซึ่งมีความปลอดภัยสูง สามารถสลายไปได้เองเกือบ 100% คือสลายได้มากถึง 99% ส่วนอีก 1% ที่เหลือก็เป็นสิ่งที่ร่างกายคนเราสร้างขึ้นมาเองคือ อีลาสติน และคอลลาเจน
  • ฉีดใต้ตากับคุณหมอที่มีความเชี่ยวชาญ และใช้เทคนิคการฉีดที่เหมาะสมย่อมช่วยแก้ปัญหาใต้ตาได้อย่างเห็นผล

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ที่ไหนดี?

  • เลือกคลินิกที่เปิดให้บริการอย่างถูกต้อง ได้มาตรฐาน ต้องแสดงใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาลไว้ให้เห็นได้อย่างชัดเจนตามที่กฎหมายกำหนด
  • คลินิกควรมีห้องหัตถการ และมีบริเวณที่กว้างขวางพอสมควร ไม่อับทึบ ดูสะอาดสะอ้าน มีอุปกรณ์ เครื่องมือ ยาและเวชภัณฑ์อย่างครบถ้วน และอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน
  • ควรเลือกฉีด filler ใต้ตากับคลินิกที่มีแพทย์ประจำคลินิก เพื่อช่วยเพิ่มความมั่นใจได้อีกระดับหนึ่ง ซึ่งคนไข้สามารถที่จะขอดูผลงานของแพทย์ประจำคลินิกได้ครับ
  • ก่อนฉีดฟิลเลอร์ทุกครั้ง คนไข้ควรขออนุญาตแพทย์เพื่อตรวจเช็คว่าเป็นฟิลเลอร์ของแท้ที่ผ่าน อย.ถูกต้องไหม
ฟิลเลอร์ใต้ตา-รีวิวคุณเจสซี่

ฟิลเลอร์ใต้ตา กี่วันเห็นผล?

คนไข้บางรายที่มีกำหนดการต้องออกงานสำคัญที่จำเป็นต้องใช้หน้า ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา กี่วันเห็นผล มักเป็นคำถามที่อยากรู้เพื่อเตรียมตัวไปฉีดให้เรียบร้อยทันเวลาที่จะใช้หน้า ทั้งนี้ หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตารอเพียง 4-5 วันก็จะค่อย ๆ เห็นผลลัพธ์แล้วครับ ซึ่งผลที่ชัดเจนคนไข้จะสามารถเห็นได้ภายในช่วง 2-3 อาทิตย์เท่านั้น

ฟิลเลอร์ใต้ตา บวมกี่วัน จะเข้าที่ภายในกี่วัน?

อาจมีอาการบวมเกิดขึ้นได้เนื่องมาจากการเข็มเข้าไปในผิว หลังเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แต่ไม่ใช่การบวมแดง อักเสบที่เกิดจากตัวยาครับ ทั้งนี้ คุณหมอจะมีการนัดหมายให้เข้ามาดูผลลัพธ์ต่อไป

  • ประมาณ 3 วันหลังฉีดฟิลเลอร์เรียบร้อยแล้ว อาการบวมที่เกิดขึ้นจากเข็มจะดีขึ้นเรื่อย ๆ
  • ประมาณ 1-2 สัปดาห์หลังฉีด จะเห็นได้ว่าเข้าที่เต็มที่ครับ
  • แนะนำว่าควรดื่มน้ำให้เพียงพอ 1.5-2 ลิตรต่อวัน อันเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญจะทำให้ฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานขึ้นครับ
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา-ควรดื่มน้ำมากๆ

สาเหตุที่ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แล้วบวมเป็นก้อน

หากคนไข้ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แล้วเป็นก้อนบวม หากเป็นการฉีดเติมใต้ตาโดยใช้ฟิลเลอร์ของแท้ Hyaluronic Acid : HA สามารถฉีดเพื่อสลายฟิลเลอร์ที่เป็นก้อนได้โดยใช้ตัวยาไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase หรือ HYAL) ฉีดเพื่อทำการแก้ไขได้ครับ ส่วนสาเหตุที่เกิดเป็นก้อนนั้น ได้แก่

  • เทคนิคการฉีดใต้ตาที่ใช้ ไม่ถูกต้อง
  • ฉีดกับหมอที่ไม่มีประสบการณ์ในด้านการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
  • เลือกใช้ยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ ไม่เหมาะสมการฉีดเพื่อเติมเต็มใต้ตา
  • ฟิลเลอร์ที่ฉีดไม่ใช่ของแท้ แต่เป็นฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐานหรือฟิลเลอร์ปลอม

ฟิลเลอร์ใต้ตา รีวิว ก่อน-หลังฉีด เปรียบเทียบให้เห็นอย่างชัดเจน!

ฟิลเลอร์ใต้ตากี่-cc-1CC

(ภาพรีวิว ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา : ปริมาณ 1 CC)

รีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากี่-cc-2-CC

(รีวิว ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา : ปริมาณ 2 CC)

รีวิวฟิลเลอร์ใต้ตา-กี่ccดีที่สุด-0dot5cc

(รีวิว ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา : ปริมาณข้างละ 0.5 cc และร้อยไหมข้างละ 3 เส้น)

ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.vsquareclinic.com/tips/under-eye-fillers/